วัคซีนโควิด-19 ในไทยคาดได้รับวัคซีนกลางปี 2564
วัคซีนต้านโควิด 19 ในไทย คาดได้รับวัคซีนในปี 2564 หลังการจองล่วงหน้าและสัญญาการจัดซื้อวัคซีน
สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในปัจจุบันยังคงมีความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นหลากหลายพื้นที่ทั่วโลก ซึ่งการรักษาสำหรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 นั้น คือการใช้วัคซีน ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลากหลายบริษัทที่กำลังทดลอง โดยศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวถึงความหวังสำหรับการมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ใช้ในประเทศไทยว่าในขณะนี้มีอย่างน้อย 13 บริษัทที่อยู่ในขั้นตอนทดลองในมนุษย์ระยะที่ 3 ซึ่งคาดว่าสิ้นปี 2563 มากกว่าครึ่งหนึ่งใน 13 บริษัท จะประกาศความสำเร็จในการทดลองยาต้านโดวิด หลังมี 4 บริษัทประกาศผลสำเร็จการทดลองในมนุษย์ระยะที่ 3 มาแล้ว และคาดว่าในไตรมาส 2 ของปี 2564 น่าจะมีวัคซีนสำหรับต้านโควิดใช้ใประเทศและอาจมีการสั่งนำเข้ามาใช้เพิ่มเติมในไทยอีกด้วย
ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะเป็นประธานพิธีลงนามในสัญญาการจัดหาวัคซีนโควิด-19 โดยการจองล่วงหน้าและสัญญาการจัดซื้อวัคซีน กับบริษัทแอสตร้าเซเนก้า บริษัทผู้ผลิตชีวภัณฑ์ชั้นนำสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน ในวงเงิน 6,049,723,117 บาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับวัคซีนกลางปี 2564 หลัง ครม. เมื่อวันที่ 17 พ.ย. เห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับประชาชนไทยทำให้คนไทยมีโอกาสเข้าถึงวัคซีนได้มากกว่าประเทศอื่น รวมถึงการผลิตวัคซีนในประเทศไทย ที่จะใช้โรงงานของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เป็นแหล่งการผลิตนั่นเอง
นอกจากนี้สำหรับในต่างประเทศทางด้าน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าการผลิตและทดลองใช้วัคซีนโควิด-19 ในหลายประเทศเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นพ.มอนเซฟ สลาอุย หัวหน้าที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ของโครงการOperation Warp Speed ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าชาวอเมริกันร้อยละ 70 จากทั้งหมด 330 ล้านคน จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในคนหมู่มากตามเป้าหมายของรัฐบาลภายในเดือนพฤษภาคมปี 2021 โดยองค์การอาหารและยาสหรัฐหรือ FDA จะอนุมัติผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาโดยไฟเซอร์ อิงค์ บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐ และไบโอเอนเทคของเยอรมนีช่วงกลางเดือนธันวาคม (ที่มา ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ) ซึ่งเรื่องนี้คนไทยเองก็ควรได้รับทั้งการตรวจโควิดที่บ้านและวัคซีนที่ดี